รถเข็น (
0
ชิ้น)
สั่งซื้อ
Enter your search terms
Submit search form
Web
ค้นหาภายในเว็บนี้
งานคือความดีที่หล่อเลี้ยงชีวิต
พิมพ์หน้านี้
ส่งหน้านี้ให้เพื่อน
เขียนโดย
admin
ศุกร์ 26 พฤษภาคม 2549 @ 17:00
ผู้คนโดยทั่วไปใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน หลายคนต้องกล้ำกลืนฝืนทนกับความเบื่อหน่ายและรู้สึกแปลกแยกกับการทำงานที่ตนไม่เห็นคุณค่า
งานไม่ได้มีความหมายมากไปกว่าการหารายได้เพื่อความอยู่รอดและเพื่อความมั่นคงของชีวิต หลาย ๆ คนต้องกัดฟันทำงานเพราะกลัวตกงาน ทั้งที่เกลียดและเบื่องานที่ทำอยู่อย่างมาก
งานจึงกลายเป็นเรื่องน่าเหนื่อยหน่ายที่ผู้คนต้องซังกะตายทำไปวัน ๆ
เมื่อเลิกงานจึงต้องหาทางแก้ความเบื่อด้วยการไปกิน ไปเที่ยว หรือไม่ก็หนีไปสปา ไปอาบน้ำแร่แช่น้ำนม
เรียกว่าหนีไปจากโลกแห่งความจริงไปเป็นเจ้าหญิงมีคนมาเตรียมน้ำลอยดอกไม้ให้อาบ มีคนรับใช้มาล้างเท้า ขัดผิว หรือนวดน้ำมันให้ เพื่อจะได้พอมีแรงกลับไปกัดฟันทำงานที่น่าเหนื่อยหน่ายต่อไป
สำหรับผู้คนที่ยังมีศรัทธาในความดีอยู่บ้างก็ต้องหาโอกาสใช้เวลาว่างในวันหยุดจากงานไปทำบุญหรือบำเพ็ญศาสนกุศล เพื่อทำความดีไว้เป็นมงคลของชีวิต
เรียกว่า ต้องว่างเว้นจากการงานจึงมีโอกาสไปทำความดี
งานกับความดีได้กลายเป็นคนละเรื่องกันโดยปริยาย เป็นเส้นขนานที่แทบจะไม่เคยมาบรรจบกันในชีวิตของคนส่วนใหญ่
แต่เรื่องราวที่ท่านจะได้อ่านในหนังสือเล็ก ๆ นี้เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ ของคนที่ถือเอาการทำงานเป็นโอกาสของการทำความดี
เป็นเรื่องของคนเล็ก ๆ ที่ไม่มีอำนาจตำแหน่งหรือยศถาบรรดาศักดิ์อะไร แต่เป็นคนเล็ก ๆ ที่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ควรแก่การเรียนรู้และเชิดชูไว้เป็นแบบอย่างให้แก่ผู้คนทั้งหลาย ไม่เฉพาะเพียงสำหรับบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น
คนเหล่านี้ทำงานให้บริการดูแลรักษาสุขภาพในระดับครอบครัวและชุมชนหรือที่เรียกว่าบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ซึ่งถือกันว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการพัฒนาระบบสุขภาพ
เพราะบทเรียนจากการปฏิรูประบบบริการสุขภาพทั่วโลกมีข้อสรุปตรงกันว่า การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้น นอกจากจะต้องใช้มาตรการทางการเงินหรือที่เรียกว่าการปฏิรูประบบการเงินการคลังของภาคสาธารณสุขแล้ว ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ ต้องสร้างระบบการดูและรักษาสุขภาพในระดับปฐมภูมิให้เข้มแข็งด้วย
แต่พอพูดถึงบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิซึ่งเป็นการดูแลรักษาสุขภาพในระดับครอบครัวและชุมชน คนส่วนมาก (รวมทั้งหน่วยงานและผู้บริหารระบบการแพทย์ส่วนใหญ่) มักไม่เห็นคุณค่าและไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควร
ส่วนหนึ่งเพราะเห็นว่าเป็นบริการสุขภาพเบื้องต้น เป็นการแพทย์พื้น ๆ ไม่ใช่ การแพทย์ชั้นสูง ที่วิเศษวิโส
ไม่มีผู้เชี่ยวชาญพิเศษหรือเทคโนโลยีล้ำสมัยที่น่าตื่นตาตื่นใจหรือทำเรื่องอัศจรรย์ทางการแพทย์ได้
คนทำงานเหล่านี้จึงเป็นเหมือนคนชายขอบที่ไม่มีวาสนาบารมี ไม่มีปากมีเสียง และไม่มีอำนาจต่อรองอะไร ทั้งงบประมาณที่ใช้ทำงานก็มีให้อย่างจำกัด ซ้ำในทางวิชาชีพก็ไม่ได้มีเกียรติหรือศักดิ์ศรี แต่ต้องทำงานที่หนักและเหนื่อยยาก
ในสถานการณ์ที่ชวนให้ท้อแท้อยู่นี้ กลับมีผู้คนตัวเล็ก ๆ จำนวนหนึ่งกำลังทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับการดูแลรักษาสุขภาพของผู้คนรวมทั้งคนเล็กคนน้อยและคนด้อยโอกาสในชุมชนอย่างไม่ย่อท้อ
ไม่ใช่เพียงแค่ทำไปตามหน้าที่ที่ถูกมอบหมาย แต่เป็นการทำด้วยหัวใจที่อ่อนโยนต่อความเป็นมนุษย์
เรื่องราวในหนังสือเล่มเล็ก ๆ นี้เป็นตัวอย่างของคนเหล่านี้ที่อาจมีอยู่อีกมากมายโดยที่ไม่มีคนรู้จัก
ตรงข้ามกับที่มักเข้าใจกันว่า บริการสุขภาพระดับครอบครัวหรือชุมชนเป็นบริการเบื้องต้น เป็นการดูแลรักษาความเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเหมือนการรักษาโรคที่ยากและซับซ้อนในโรงพยาบาลขนาดใหญ่
แท้จริงแล้วบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องใส่ใจกับสุขภาพในหลายมิติ ทั้งทางกายหรืออวัยวะ ทางจิตใจหรืออารมณ์ความรู้สึก ทางสังคมและทางจิตวิญญาณ
การดูแลที่ใส่ใจกับหลายมิติให้มีความเหมาะสมลงตัวเป็นศิลปะที่ไม่ใช่จะทำกันแบบง่าย ๆ หรือลวก ๆ
หากดูความเจ็บป่วยแค่มิติเดียว เช่นมิติทางกายภาพหรือมิติของอวัยวะ ผู้ป่วยด้วยโรคเดียวกันก็อาจมีพยาธิสภาพเหมือนกัน และให้การรักษาเหมือน ๆ กันได้
แต่หากพิจารณาจากหลายมิติของสุขภาพผู้ป่วยหรือคนไข้แต่ละคนจะไม่เหมือนกันเลย
การดูแลที่ต้องใส่ใจกับสุขภาพในหลายมิติ จึงไม่มีคำตอบตายตัวหรือสำเร็จรูปที่ใช้ได้กับทุกกรณี
การเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อนหลายมิติ จึงไม่ได้จากการท่องสูตรการรักษา แต่ต้องเรียนรู้จากกรณีศึกษาที่หลากหลาย ไม่ใช่เรียนรู้เพื่อลอกเลียนวิธีการ แต่เป็นการเรียนรู้เพื่อเอาแบบอย่างไปคิดต่อและประยุกต์ใช้ในบริบทของแต่ละกรณี
เพราะการดูแลรักษาความเจ็บป่วยของมนุษย์ไม่ใช่การตัดเสื้อโหลที่ตัดแบบเดียว ขนาดเดียวให้ทุกคนใส่
ที่สำคัญเรื่องราวเหล่านี้ให้ทั้งแง่คิดและแรงบันดาลใจ เพราะเป็นการนำแนวคิดบริการปฐมภูมิที่ใส่ใจในมิติของความเป็นมนุษย์และมีความละเอียดอ่อนทางสังคมวัฒนธรรมและจิตวิญญาณไปปฏิบัติอย่างได้ผลและงดงาม
เรียกว่า อ่านเอาแง่คิดก็ได้
อ่านเอาแรงบันดาลใจก็ดี
เพราะทุกกรณีศึกษามีทั้งข้อคิดข้อปฏิบัติให้ทั้งความจริงเกี่ยวกับชีวิตและสุขภาพ มีทั้งความงดงามและละเอียดอ่อน และแฝงไว้ทั้งความดีที่เราชื่นชมได้
พูดอีกอย่าง งานบริการสุขภาพปฐมภูมิอย่างนี้เป็นที่บรรจบกันของความดี ความงามและความจริงของชีวิต
งานจึงไม่ได้เป็นแค่ภารกิจที่จำเป็นต้องทำให้ได้ตามตัวชี้วัด
เพราะงานที่ทำด้วยหัวใจที่อ่อนโยนต่อความเป็นมนุษย์นั้นเป็นมากกว่าภารกิจตามหน้าที่
แต่เป็นความดีที่หล่อเลี้ยงชีวิต
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 7 : ฟ้าหลังฝน
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 6 : หุ้นส่วนความดี
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 5 : ก่อนโลกจะขานรับ
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 4 : กำลังใจและความหวัง
ดูทั้งหมด »
E-Mail
รหัสผ่าน
จดจำการล๊อคอิน
สมัครสมาชิก
ลืมรหัสผ่าน
มกราคม
กุมภาพันธ์
มีนาคม
เมษายน
พฤษภาคม
มิถุนายน
กรกฎาคม
สิงหาคม
กันยายม
ตุลาคม
พฤศจิกายน
ธันวาคม
2023
2024
2025
2026
© 2005-2024 Society and Health Institute (SHI)