รถเข็น (
0
ชิ้น)
สั่งซื้อ
Enter your search terms
Submit search form
Web
ค้นหาภายในเว็บนี้
การเรียนรู้และความรู้ในสังคมสมัยใหม่
พิมพ์หน้านี้
ส่งหน้านี้ให้เพื่อน
เขียนโดย
admin
เสาร์ 24 มิถุนายน 2549 @ 17:00
แนวคิดเรื่องการจัดการความรู้ที่เป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายแนวทางการปฏิบัติ อาจกล่าวได้ว่า กระแสที่เกิดในแวดวงวิชาการด้านการบริหารจัดการนี้เป็นส่วนหนึ่งเป็นความพยายามที่จะก้าวให้พ้นจากกรอบจำกัดของวิธีคิดเดิมของการจัดการความรู้ที่อาจเรียกว่า อุตสาหกรรมความรู้ (Knowledge industry)
ระบบอุตสาหกรรมความรู้สมัยใหม่นี้สัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมอุตสาหกรรม และที่สำคัญคือเป็นระบบที่มีรากฐานวิธีคิดมาจากกระบวนทัศน์วิทยาศาสตร์เก่าซึ่งมองโลกแบบแยกส่วนและกลไก
ระบบอุตสาหกรรมความรู้ที่ว่านี้มีขอบเขตกว้างขวางครอบคลุมทั้งระบบการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษา ระบบการวิจัย รวมทั้งระบบการผลิต การกระจาย และการบริโภคความรู้ที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในสังคมทุนนิยมอุตสาหกรรม และโดยเหตุที่การเรียนรู้กับการจัดการความรู้ในองค์กรต่าง ๆ ล้วนได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมความรู้
เราจึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันถึงข้อจำกัดของระบบอุตสาหกรรมความรู้ไว้เป็นเบื้องต้น เป็นการรู้เท่าทันวิธีคิดก่อนที่จะสามารถพลิกให้พ้นไปจากข้อจำกัดของมัน เพื่อพัฒนาวิธีคิดการจัดการองค์กรไปสู่การเรียนรู้ในมิติทางจิตวิญญาณได้
ระบบอุตสาหกรรมความรู้นี้มีลักษณะเดียวกับที่ ธีออดอร์ อะดอร์โน (Theodor Adrono) นักคิดคนสำคัญของสกุลความคิดแบบแฟรงค์เฟิร์ท (Frankfurt school) อะดอร์โนได้วิเคราะห์ อุตสาหกรรมวัฒนธรรม (Cultural Industry) ไว้ว่าแบบแผนทางวัฒนธรรมในสังคมทุนนิยมนั้นถูกครอบงำกำหนดโดยระบบอุตสาหกรรม โดยที่ระบบอุตสาหกรรมจะเป็นผู้ผลิตค่านิยมผ่านสินค้าอุปโภคบริโภค และอาศัยการวิจัยทางการตลาดและการโฆษณาทางสื่อมวลชนสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ ภาพยนตร์ ดนตรี และหนังสือพิมพ์ ฯลฯ เพื่อให้การผลิตและการบริโภคสินค้าสำเร็จรูปในปริมาณมาก (Mass consumption) (Adorno 1990)
ภายใต้บริบทดังกล่าว วัฒนธรรมในสังคมสมัยใหม่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบทุนนิยมอุตสาหกรรม ศิลปะและการแสดงออกทางวัฒนธรรมจึงถูกควบคุมจำกัดโดยระบบตลาด
ระบบความรู้หรือ Knowledge System ในระบบทุนนิยมอุตสาหกรรมก็มีชะตากรรมไม่ต่างไปจากระบบวัฒนธรรม เพราะเป็นผลผลิตของกรอบวิธีคิดแบบอุตสาหกรรม
ระบบอุตสาหกรรมความรู้นี้มีลักษณะที่สำคัญได้แก่
1. ระบบการถ่ายทอดความรู้หรือระบบการศึกษาเน้นการสร้างผลผลิตที่มีลักษณะเหมือนกันเป็นจำนวนมาก (Mass Production) นักเรียนเข้าสู่ระบบโรงเรียนไม่ต่างจากวัตถุดิบที่เข้าสู่โรงงานผ่านสายพานเข้าสู่การผลิตที่ใช้ พ่อพิมพ์ หรือ แม่พิมพ์ ของชาติปั๊มให้ได้นักเรียนมีมาตรฐานเดียวกัน คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน เป็นระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรมโดยแท้
2. นอกจาก คน ซึ่งผลิตได้แบบอุตสาหกรรมแล้ว ความรู้ ก็ต้องถูกทำให้เป็นของสำเร็จรูปที่สามารถบันทึก ถ่ายทอด จดจำ และทดสอบได้ด้วยเกณฑ์มาตรฐานเชิงปริมาณ ความรู้ที่เหมาะกับการจัดการในระบบอุตสาหกรรมต้องเป็นความรู้ที่มีผู้ผลิตเป็นจำนวนน้อยราย ผู้คนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้บริโภคความรู้สำเร็จรูปที่ไม่ต้องใช้สติปัญญาขบคิดหรือสังเคราะห์ เพียงให้สามารถเอาความรู้สำเร็จรูปไปใช้ได้เป็นพอ
ความรู้ที่ถูกผลิตและเป็นที่นิยมในการบริโภคจึงกลายเป็นความรู้แบบ how to ที่เน้นเทคนิควิธีการทำมากกว่าการเสริมสร้างสติปัญญาให้เกิดการรู้เท่าทัน หรือการสร้างฐานรากของความรู้ที่จะสามารถนำไปคิดให้งอกงามต่อได้ หรือเรียกว่า เป็นระบบที่เน้นการเรียนเรื่อง Know-how มากกว่า Know-why
3. การสนับสนุนการวิจัยในระบบอุสาหกรรมความรู้ปัจจุบันก็มีลักษณะของทุนนิยมอุตสาหกรรมเช่นกัน ระบบวิจัยที่เป็นอยู่ไม่ต่างไปจากระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรมที่นอกจากจะเน้นงานวิจัยเพื่อผลได้ทางเศรษฐกิจแล้ว ยังเน้นงานวิจัยที่วางแผนการผลิตไว้ล่วงหน้าได้ชัดเจน เพื่อให้สามารถควบคุมการผลิตได้เช่นเดียวกับการผลิตแบบอุตสาหกรรม และมุ่งหาคำตอบแบบตรงไปตรงมาที่ เป็นวิทยาศาสตร์ และเป็นภาวะวิสัย (objective) คือมีตัวเลขยืนยันได้
งานที่ง่ายต่อการสนับสนุนในระบบวิธีคิดดังกล่าวก็คือ การวิจัยเชิงปริมาณที่มีกรอบและแนวทางการวิจัยที่แน่นอนตายตัว ส่วนงานการสร้างความรู้ด้านสังคมวัฒนธรรม ความเข้าใจทางศาสนาหรือปรัชญา ตลอดจนความรู้ความเข้าใจในมิติทางจิตวิญญาณนั้นถูกละเลยไปโดยปริยาย เพราะที่ไม่สามารถทำให้เป็นตัวเลขหรือนำมาแสดงเป็นตารางและขั้นตอนเป็นข้อ ๆ เหมือนตำราอาหารได้
จะเห็นได้ว่า ระบบการจัดการความรู้ที่อิงแอบกับวิธีคิดแบบอุตสาหกรรมนี้เป็นระบบที่เอื้อให้ความรู้บางแบบเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่แทบจะไม่เหลือที่อยู่ที่ยืนให้กับความรู้ที่มีรากฐานวิธีคิดที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะความรู้ในมิติทางจิตวิญญาณ
การก้าวออกจากกรอบจำกัดของอุตสาหกรรมความรู้ จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญของการเรียนรู้ใหม่ๆ และการจัดการความรู้
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 7 : ฟ้าหลังฝน
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 6 : หุ้นส่วนความดี
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 5 : ก่อนโลกจะขานรับ
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 4 : กำลังใจและความหวัง
ดูทั้งหมด »
E-Mail
รหัสผ่าน
จดจำการล๊อคอิน
สมัครสมาชิก
ลืมรหัสผ่าน
มกราคม
กุมภาพันธ์
มีนาคม
เมษายน
พฤษภาคม
มิถุนายน
กรกฎาคม
สิงหาคม
กันยายม
ตุลาคม
พฤศจิกายน
ธันวาคม
2023
2024
2025
2026
© 2005-2024 Society and Health Institute (SHI)