รถเข็น (
0
ชิ้น)
สั่งซื้อ
Enter your search terms
Submit search form
Web
ค้นหาภายในเว็บนี้
จิตวิญญาณการแพทย์
พิมพ์หน้านี้
ส่งหน้านี้ให้เพื่อน
เขียนโดย
admin
จันทร์ 10 กรกฎาคม 2549 @ 17:00
วิชาชีพทางการแพทย์มีบทบาทสำคัญในการเยียวยารักษาโรคภัยไข้เจ็บที่คุกคามสุขภาพและชีวิต จึงเป็นวิชาชีพที่สังคมมอบอำนาจและความไว้วางใจให้จัดการชีวิตและความเป็นความตายของผู้คนในสังคม
ควบคู่ไปกับอำนาจและความไว้วางใจ สังคมได้คาดหวังคุณธรรมและจรรยาวิชาชีพจากบุคลากรทางการแพทย์ในมาตรฐานที่สูงกว่าวิชาชีพอื่น ๆ
การแพทย์ในทุกวัฒนธรรมจึงมักมีมาตรการที่จะทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์ดำรงชีวิตอย่างเคารพในเกียรติภูมิของวิชาชีพ เช่น การปลูกฝังจรรยาแพทย์ พยาบาล หรือการมีกฎเกณฑ์ควบคุมกำกับการประพฤติตนให้อยู่ในมาตรฐานและคุณธรรมของวิชาชีพ นอกเหนือจากมาตรการภายนอกเหล่านี้แล้ว
ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ความไว้วางใจและศรัทธาของประชาชนโดยทั่วไปต่อวิชาชีพทางการแพทย์มีแนวโน้มลดถอยลง ทั้งเนื่องจากสังคมโดยรวมที่มีทิศทางการพัฒนาไปสู่ความเป็นสังคมทุนนิยมบริโภคนิยมที่บูชาวัตถุ
ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยมีลักษณะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการกับลูกค้ามากกว่าที่จะเป็นไปด้วยความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ยิ่งในระบบการแพทย์ที่พึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีชั้นสูง ปฎิสัมพันธ์ที่เป็นไปแบบเครื่องยนต์กลไกก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์ผู้รักษากับผู้ป่วยมีลักษณะที่ฉาบฉวยและห่างเหินต่อกัน
นอกจากนั้น ระบบการศึกษาทางการแพทย์ในปัจจุบันยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับปัญหาการเรียนการสอนที่จะสามารถปลูกฝังคุณธรรมและการมีอุดมคติของชีวิตได้
สถานการณ์ความสัมพันธ์ของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์จึงมีแนวโน้มเสื่อมถอยลงจนเกิดเป็นคดีฟ้องร้องกัน ซึ่งเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การที่ระบบบริการทางการแพทย์ไทยสามารถพัฒนามาจนมีคุณภาพและมีคุณูปาการต่อสังคมไทยอย่างใหญ่หลวงในปัจจุบันนั้นย่อมจะต้องมีรากฐานทางอุดมคติดำรงอยู่ร่วมด้วย
กล่าวได้ว่าความก้าวหน้าทางการแพทย์ไทยนั้นเป็นผลจากการทำงานอุทิศตนเองของบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากที่สามารถเป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังได้ แพทย์อาวุโสหลายท่านได้ทุ่มเททั้งในด้านการสอนและปลูกฝังวิชาการและคุณธรรมให้กับนักเรียนแพทย์ หรือทุ่มเทในการบุกเบิกขยายบริการทางการแพทย์เพื่อให้ถึงชุมชนและผู้ยากไร้ในชนบท ทั้งในรูปแบบหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โครงการพัฒนาสุขภาพในชนบท ตลอดจนการทำงานให้บริการทางการแพทย์เพื่อรับใช้ชาวบ้านในชนบทที่ห่างไกล
ท่ามกลางการทำงานที่ยากลำบาก บุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ดำรงวิชาชีพควบคู่ไปกับการมีอุดมคติของชีวิตที่สามารถเป็นแบบอย่างให้แก่คนรุ่นหลังได้เรียนรู้เป็นอย่างดี
ในขณะที่ทิศทางการพัฒนาของสังคมไทยมุ่งเน้นความเจริญทางด้านวัตถุ การแสวงหาความร่ำรวยและลาภยศถูกทำให้กลายเป็นเป้าหมายของชีวิต ระบบการแพทย์ในปัจจุบันก็มีพัฒนาการในลักษณะที่เน้นค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน
ยิ่งมีโรงพยาบาลเอกชนซึ่งสามารถเก็บค่ารักษาพยาบาลราคาแพงและจัดสรรค่าตอบแทนให้กับแพทย์ที่ไปทำงานเป็นสัดส่วนที่มากกว่าภาครัฐเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ก็ยิ่งเกิดการเปรียบเทียบรายได้ระหว่างกันยิ่งขึ้น
คนทำงานเสียสละเพื่อส่วนรวมหรือทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโดยมีค่าตอบแทนแต่พอควรกลายเป็นคนโง่
แต่การทำงานเพื่อเงินโดยขาดความภาคภูมิใจ และขาดการเห็นคุณค่าของชีวิตก็ไม่อาจนำมาซึ่งความสุขอันประณีตในชีวิตหรือสุขภาวะทางจิตวิญญาณได้
หากถือว่า สุขภาวะทางจิตวิญญาณเป็นสภาวะแห่งความสุขอันประณีตที่เกิดจากการเข้าถึงซึ่งความดี ความงาม และความจริงของชีวิต ( โดยไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องศาสนาเสมอไป )
การแพทย์ที่ขาดอุดมคติของวิชาชีพก็เป็นการแพทย์ที่ละเลยต่อมิติทางจิตวิญญาณ
เพราะหากปราศจากซึ่งอุดมคติของชีวิตแล้ว บุคลากรทางการแพทย์ก็มีสถานะไม่แตกต่างจากพ่อค้าที่แสวงหากำไรจากความเจ็บป่วยของผู้คน
หากเราจะถือว่างานเป็นมากกว่าการดิ้นรนหาเลี้ยงชีพ เพราะการทำงานยังเป็นโอกาสในการขัดเกลาตนเอง เป็นโอกาสของการเข้าถึงความดี ความจริง และความงามของชีวิต
โดยเฉพาะงานในวิชาชีพแพทย์นั้นมีสิ่งตอบแทนที่ไม่อาจเทียบกับค่าตอบแทนทางการเงินได้ ไม่ว่าจะเป็นความสุขและความภาคภูมิใจในการทำความดี การได้รับความรักและความเคารพนับถืออย่างจริงใจจากผู้ป่วย เพื่อนร่วมงาน และสังคม
ความสุขจากการทำงานที่ตอบสนองต่ออุดมคติของชีวิตนี้เองที่จะเป็นจุดเริ่มของการเรียนรู้เพื่อเข้าถึงสุขภาวะทางจิตวิญญาณของการแพทย์
การสร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อบ่มเพาะฟื้นฟูอุดมคติของชีวิตและความหมายของการทำงานในหมู่บุคลากรทางการแพทย์ไม่เพียงแต่จะทำให้การทำงานให้บริการแก่ผู้ป่วยและญาติมีความละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการส่งเสริมมิติทางจิตวิญญาณในวงการแพทย์ไทย
ปัจจุบัน ภารกิจที่ท้าทายการแพทย์ไทยแตกต่างออกไปจากภารกิจในทศวรรษก่อน ๆ
ความท้าทายทางการแพทย์ในช่วง 3-4 ทศวรรษที่ผ่านมา คือ การขยายระบบบริการสาธารณสุขให้กว้างขวางเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างทั่วถึง
แม้จะเป็นภารกิจที่ยากลำบาก แต่ก็พอจะกล่าวได้ว่า เราสามารถบรรลุเป้าหมายความท้าทายนั้นได้อย่างดีในระดับหนึ่ง
แต่ความท้าทายที่กำลังปรากฎตรงหน้าเรานี้เป็นภารกิจที่ไม่เพียงแต่ยิ่งยากแต่ยังละเอียดอ่อน แต่ความท้าทายแห่งยุคสมัยเป็นภารกิจท้าทายที่ไม่สามารถบรรลุได้หากปราศจากพลังแห่งจินตนาการและแรงบันดาลใจที่มีรากฐานที่มั่นคงจากการสร้างสังคมการงานที่มีอุดมคติของชีวิตเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง
เพราะภารกิจใหม่ทางการแพทย์ในยุคปัจจุบันนี้ก็คือ
การสร้างระบบการแพทย์ที่มีหัวใจของความเป็นมนุษย์
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 7 : ฟ้าหลังฝน
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 6 : หุ้นส่วนความดี
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 5 : ก่อนโลกจะขานรับ
•
หนังสือชุดงานคือความดี เล่ม 4 : กำลังใจและความหวัง
ดูทั้งหมด »
E-Mail
รหัสผ่าน
จดจำการล๊อคอิน
สมัครสมาชิก
ลืมรหัสผ่าน
มกราคม
กุมภาพันธ์
มีนาคม
เมษายน
พฤษภาคม
มิถุนายน
กรกฎาคม
สิงหาคม
กันยายม
ตุลาคม
พฤศจิกายน
ธันวาคม
2023
2024
2025
2026
© 2005-2024 Society and Health Institute (SHI)